วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สตรอเบอร์รี่


สตรอเบอร์รี่


 สตรอเบอร์รี่ผลไม้สีหวานสดใสนี้นอกจากจะกินอร่อยแล้ว ยังอุดมไปด้วยประโยชน์ทั้งสารต้าน อนุมูลอิสระ สารอาหารต่าง ๆ ตั้งแต่โฟเลต วิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม โปรแตสเซียม ไฟโตนิวเทรียนท์ ไฟเบอร์ ฟลาโวนอยด์ กรดฟีโนลิก กรดเอลลาจิก ฯลฯ สตรอเบอร์รี จึงเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพด้วยสรรพคุณที่เกินพิกัด...ช่วยดูแลสายตา สารต้านอนุมูลอิสระในสตรอเบอร์มีส่วนช่วยชะลอขบวนการเสื่อสภาพของดวงตาได้

มะขามป้อม






มะขามป้อม 

มะขามป้อมเป็น สมุนไพรไทยราคาถูกที่อุดมไปด้วยวิตามินซีมากกว่าแอปเปิ้ลถึง 160 เท่า ถ้ากินเล่นแทนลูกอมจะ ช่วยให้สุขภาพแคล้วคลาดจากโรคไวรัสตับอักเสบบี ป้องกันการเกิดพิษโลหะหนัก และโรคมะเร็งตับได้ ที่สำคัญวิตามินซีในมะขามป้อมจะไม่ละลายไปเหมือนในผลไม้อื่น ถึงแม้จะเอาไปเชื่อม แช่เย็น หรือ อบแห้ง เพราะมันมีสารเทนนินและโพลีฟีนอที่ช่วยป้องกันการออกซิไดซ์ของวิตามินซี
 
 

คะน้า

 


 คะน้า


คะน้าเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี แคโรทีนอยด์ และ โฟเลต นอกจากนี้ ยังมีสาร “ลูทีน” ซึ่งเป็นสารสำคัญที่พบในเลนส์ตา ผลจากงานวิจัย พบว่า การกินอาหารหรือพืชผักที่มีสารลูทีนสูง เช่น คะน้า จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจกลงได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่กิน นอกจากนี้ การกินคะน้าเป็นประจำ ยังช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร ปอด และเต้านมอีกด้วย ป้องกันโรคต้อกระจก 

มะละกอ

 


ประโยชน์ของมะละกอ


มะละกอถูกนำมาใช้บริโภคเป็นผักได้หลายส่วนด้วยกัน เช่น ผล(ดิบ) ยอด ใบ และลำต้น ส่วนที่ใช้มากที่สุด คือ ผลดิบ ซึ่งอาจใช้บริโภคดิบก็ได้ เช่น นำมาปรุงตำส้มที่ชาวไทยรู้จักดี หรือนำมาทำให้สุกเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นต้ม (หรือต้มกะทิ) เป็นผักจิ้ม แกงส้ม ต้มกับเนื้อ ฯลฯ นอกจากนี้ยังนำเนื้อมะละกอดิบมาดองกับน้ำส้มเป็นผักดอง หรือนำเนื้อมะละกอมาดองเกลือ ตากแห้ง เป็นตังฉ่าย ใช้ปรุงอาหารจีนก็ได้
ยอดอ่อนและใบมะละกอ ก็นำมาใช้ปรุงอาหารเป็นผักได้เช่นเดียวกัน แต่ในเมืองไทยยังไม่นิยมกัน อาจจะเป็นเพราะรังเกียจความขมหรือยางในใบและยอด แต่ในหลายประเทศนิยมกันมาก เช่น บนเกาะชวาประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น ข้อดีประการหนึ่งของการนำใบและยอด มะละกอมาบริโภคเป็นผัก ก็คือ มีคุณค่าทางอาหารสูง ทั้งโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ชนิดต่างๆ จึงอยากขอฝากให้ชาวไทยที่มีฝีมือในการปรุงอาหาร ช่วยนำใบและยอดมะละกอมาทดลองประกอบอาหาร ให้ มีรสชาติที่คนไทยยอมรับ เป็นอาหารไทยชนิดหนึ่งได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยในอนาคตมาก
ในส่วนลำต้นมะละกอนั้น เมื่อปอกเปลือกด้านนอกออก จะได้เนื้อภายในที่มีสีขาวครีมและค่อนข้างอ่อนนุ่ม คล้านเนื้อผักกาดหัวจีน (ไชเท้า) จึงสามารถนำมาปรุงอาหารได้เช่นเดียวกับผักกาดหัว โดยเฉพาะนำมาดองเค็ม ตากแห้ง เหมือนหัวผักกาดเค็ม (ไชโป๊) มะละกอนับเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงชนิดหนึ่ง เช่น เนื้อในผลซึ่งแม้คุณค่าจะด้อยกว่าใบและยอด แต่ก็นับว่าสูงโดยเฉพาะวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี แร่ธาตุเหล็ก และแคลเซียม เป็นต้น

สับปะรด

 


ประโยชน์ของสับปะรด



- ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง รับประทานสับปะรดวันละหนึ่งชิ้น ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินซี ที่สำคัญคือวิตามินซีช่วยในการทำงานของเนื้อเยื่อ และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายติดเชื้อ และต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ แต่ในผู้ที่มีเลือดจางไม่ควรกินมากนัก

- ช่วยในการย่อยอาหาร สับปะรดมีกากใยอาหารมาก ซึ่งมีความสำคัญกับการย่อยอาหาร และช่วยลดคอเลสเตอรอล ควบคุมน้ำตาลในเส้นเลือด และช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง

- ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี สับปะรดมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์ เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีส ที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระ ที่จะทำลายโครงสร้างของเซลล์ และอาจทำให้เป็นโรคหัวใจและอัมพฤกษ์ อัมพาต นอกจากนี้ สารแอนตี้ออกซิแดนต์ยังมีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย

- ป้องกันความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะอาหาร เพราะสับปะรดมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์ที่ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวการก่อมะเร็ง และยังช่วยป้องกันการเติบโตของเซลล์ร้ายในปอด ป้องกันมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งรังไข่

- ช่วยให้เหงือกแข็งแรง สับปะรดช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง เนื่องจากสับปะรดมีวิตามินซีสูงที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากโรคเหงือกได้

แตงกวา

                            

     

แตงกวา


แตงกวาอาหารของผิว

          เพราะอุดมไปด้วย วิตามินซี แคลเซียม ซิลิก้า และโปแทสเซียม แตงกวาจึงทำให้ผิวกระจ่างใส เส้นผมเป็นมันเงา เล็บแข็งแรง และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เพื่อสุขภาพผิวที่ดี มาทำโทนเนอร์แตงกวากระชับรูขุมขนใช้เองดีกว่า นำแตงกวาครึ่งลูก ถั่วเฮเซลนัท 1 ช้อนโต๊ะ น้ำแร่ 1 ช้อนโต๊ะใส่ในเครื่องปั่นอาหาร นำส่วนผสมที่ได้มากรองด้วยผ้าขาวบางคั้นเอาแต่น้ำ ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออกโทนเนอร์ส่วนที่เหลือให้นำไปแช่ตู้เย็น เก็บได้ประมาณ 3 วัน

ผิวไหม้เนื่องจากถูกแดดเผา

          บรรเทาอาการแสบผิวด้วยโลชั่นแตงกวาสูตรเย็นต่อไปนี้ดูสิ ผสมน้ำแตงกวาคั้น (เลือกลูกใหญ่ ๆ ) กับกลีเซอรีนครึ่งช้อนชา ทาบริเวณที่ถูกแดดเผา โลชั่นจะช่วยให้ผิวเย็นและเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยง ทั้งนี้เพราะแตงกวามีคุณสมบัติลดการอักเสบและคืนความชุ่มชื่นให้ผิว

มะพร้าว

                            


แตงกวา

แตงกวาอาหารของผิว

          เพราะอุดมไปด้วย วิตามินซี แคลเซียม ซิลิก้า และโปแทสเซียม แตงกวาจึงทำให้ผิวกระจ่างใส เส้นผมเป็นมันเงา เล็บแข็งแรง และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เพื่อสุขภาพผิวที่ดี มาทำโทนเนอร์แตงกวากระชับรูขุมขนใช้เองดีกว่า นำแตงกวาครึ่งลูก ถั่วเฮเซลนัท 1 ช้อนโต๊ะ น้ำแร่ 1 ช้อนโต๊ะใส่ในเครื่องปั่นอาหาร นำส่วนผสมที่ได้มากรองด้วยผ้าขาวบางคั้นเอาแต่น้ำ ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออกโทนเนอร์ส่วนที่เหลือให้นำไปแช่ตู้เย็น เก็บได้ประมาณ 3 วัน

ผิวไหม้เนื่องจากถูกแดดเผา

          บรรเทาอาการแสบผิวด้วยโลชั่นแตงกวาสูตรเย็นต่อไปนี้ดูสิ ผสมน้ำแตงกวาคั้น (เลือกลูกใหญ่ ๆ ) กับกลีเซอรีนครึ่งช้อนชา ทาบริเวณที่ถูกแดดเผา โลชั่นจะช่วยให้ผิวเย็นและเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยง ทั้งนี้เพราะแตงกวามีคุณสมบัติลดการอักเสบและคืนความชุ่มชื่นให้ผิว

มะเขือเทศ

 


มะเขือเทศ


      มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ และช่วยในการป้องกันการเสื่อสภาพของเซลล์ในร่างกาย สารไลโคฟีนนี้มีประสิทธิภาพเหนือว่าสารเบต้าเคโรทีน และสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์อื่น ๆ ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่มดลูกและปอด ยังพบอีกว่า สารไลโคฟีนนั้น สามารถช่วยลดโอกาสความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในต่อมลูกหมากได้ มากถึง 21% อีกทั้งยังเป็นส่วนผสมในตำรับยา ที่ใช้ป้องกันอันตรายอันเกิดจากการผลิตอนุมูลอิสระที่ผิดปกติ สารไลโคฟีนนี้จะพบมากในมะเขือเทศแดงสด แตงโม และฝรั่งขี้นกที่มีเนื้อสีชมพูอมแดง เป็นต้น
การรับประทานมะเขือเทศเพียงวันละ 1-2 ลูกจะให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เป็นต้นว่า ช่วยต้านโรคความดันโลหิตสูง บำรุงดวงตา และสายตา บำบัดอาการปัสสาวะขัด บำรุงเหงือกและฟัน ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว เยียวยาโรคเลือดออกตามไรฟัน ต้านทานโรคภัยไข้เจ็บ คุ้มกันไม่ให้เป็นหวัดง่าย แก้ท้องผูก และบำรุงผิวพรรณ และหากใช้มะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ หรือน้ำคั้นจากผลสดทาหน้า ช่วยทำให้ผิวหน้าตึง มีน้ำมีนวล

มะนาว



มะนาว

        ประโยชน์ของน้ำมะนาวมีคุณประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี คือ มีวิตามินซีสูง รักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้ดี นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ทางด้านความสวยความงาม โดยการเอาเปลือกที่บีบเอาน้ำออกแล้ว นำมาทาบริเวณที่ข้อศอก เข่า ฝ่าเท้า และส้นเท้า จะช่วยให้ผิวบริเวณนั้นนุ่มขึ้นได้ค่ะ สำหรับใบหน้านั้นเรายังสามารถแก้ ปัญหาสิว ฝ้า ในกรณีที่เป็นสิวไม่มีอาการอักเสบหรือติดเชื้อเป็นหนอง มะนาวจะช่วยรักษาสิวให้ยุบลงได้ ทั้งนี้เพราะน้ำมะนาวมีสภาวะที่เป็นกรดอ่อนๆ จะทำให้เนื้อเยื่อที่ตายแล้วนั้น ค่อยๆ หลุดออกไปได้ ทำให้ลดการอุดตันของรูขุมขน จะช่วยกำจัดเชื้อโรคและไขมันที่รูขุมขนได้ด้วย โดยใช้แป้งดินสอพองผสมกับน้ำมะนาวและใช้ทาบริเวณที่เป็นสิวก่อนนอนทุกคืน สิวจะค่อยๆ ยุบหายไปในที่สุด และยังทำให้ใบหน้าสวยสดใส ไร้สิวอีกด้วยค่ะ   


มะพร้าว

มะพร้าว

         มะพร้าว พืชพรรณที่พบเห็นได้ทั่วไป ตามพื้นที่ชายทะเลทุกแห่งในประเทศไทย รวมทั้งได้ถูกกำหนดให้เป็นสัญลักษณะประจำมหาวิทยาลัยบูรพา
มะพร้าวเป็นพืชที่มีความผูกพันกับ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนไทยมาช้านาน คุณสมบัติที่ดีของมะพร้าว คือส่วนต่างๆ ของมะพร้าวสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า และสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลากหลาย ตั้งแต่ ลำต้น ใบ ก้าน ผล กะลา รกมะพร้าว กาบมะพร้าว รากมะพร้าว
มะพร้าวเป็นพืชที่นิยมบริโภคในประเทศไทย เป็นอย่างมาก นิยมนำมาทำอาหาร ทั้งคาวหวาน นอกจากนั้น ยังสามารถนำมาทำอุตสาหกรรมน้ำมันมะพร้าว อุตสาหกรรมกะทิเข้มข้น มะพร้าวขูดแห้ง น้ำตาลมะพร้าว และอุตสาหกรรมอื่นๆ เกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของมะพร้าว เช่น เส้นใย ฯลฯ
ปัจจุบันคนไทยนิยมทานยอดมะพร้าวเป็นอาหารมากขึ้น เนื่องจากยอดมะพร้าวนำมาทำเป็นอาหารมากขึ้น เนื่องจากยอดมะพร้าวนำมาทำเป็นอาหาร ยำ ผัด แกง ฯลฯ โดยเฉพาะต้มยำกุ้งยอดมะพร้าว เป็นเมนูยอดนิยม ซึ่งยอดมะพร้าวเป็นอาหารชนิดหนึ่ง ที่ปลอดสารพิษ และเพิ่มเส้นใยอาหารได้ดี
สถาบันศิลปะและวัฒนธรรมฯ เห็นคุณค่าของมะพร้าวที่มีต่อวิถีชีวิตมนุษย์มายืนยาว จึงนำเสนอมะพร้าว รวมทั้งรวบรวมงานฝีมือต่างๆ ที่ใช้มะพร้าวเป็นองค์ประกอบ



วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

มะเฟือง


สรรพคุณ และ ประโยชน์ของมะเฟือง


สรรพคุณ / ประโยชน์ของมะเฟือง


นักโภชนาศาสตร์ได้วิเคราะห์คุณค่าทางอาหารของมะเฟืองแล้วพบว่า อุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอะซีน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันเส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กและพลังงานในปริมาณไม่น้อยเลย


ดังนั้นคุณค่าของมะเฟืองตามสารอาหารที่พบแล้วก็จะเห็นว่า มะเฟืองหนึ่งผลนั้นสามารถที่จะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงควบคุมการเต้นของหัวใจให้สม่ำเสมอ ควบคุมกล้ามเนื้อ ช่วยให้เลือดแข็งตัวง่าย กล่อมประสาทช่วยระงับความฟุ้งซ่าน จึงช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นในผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับ


ส่วนน้ำมะเฟืองคั้นนั้น ตำรายาโบราณกล่าวว่า มีสรรพคุณในการแก้ร้อนใน ดับกระหาย ลดความร้อนภายในร่างกายถอนพิษก็ได้ เป็นยาขับเสมหะ ป้องกันโรคโลหิตจาง โรคเลือดออกตามไรฟัน รวมทั้งยังช่วยขับปัสสาวะ และบรรเทาอาการนิ่วในทางเดินปัสสาวะได้อีกด้วย


ที่มา http://www.n3k.in.th/

ลำใย





คุณประโยชน์ของลำไย



1.  ช่วยลดจำนวนของแบคทีเรียร้ายที่ก่อให้เกิดโรค เพราะ Bifidobacteria  จะผลิตสารปฏิชีวนะและ กรดไขมันที่จะช่วยควบคุมจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคและช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของClostridium perfringens, Salmonella spp. และ E. coli ในลำไส้ ได้

2.  ช่วยลดอาการท้องผูก เนื่องจากกรดไขมันซึ่งผลิตโดย Bifidobacteria จะช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้และเพิ่มความชื้นของอุจจาระ ซึ่งเป็นผลมาจากแรงดันออสโมติก ทำให้ระบบการขับถ่ายดีขึ้น

3.  ช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด  โดย Lactobacillus acidophilus จะช่วยย่อยสลายคลอเรสเตอรอล และช่วยยับยั้งการดูดซึมคลอเรสเตอรอลผ่านผนังลำไส้

4.  ช่วยลดความดันโลหิต ได้มีการศึกษาและพบว่า ความดันโลหิตแปรผกผันกับจำนวนของ Bifidobacteria ในลำไส้

5.  ช่วยเพิ่มวิตามินบางชนิด  โดยพบว่า Bifidobacteria  สามารถผลิตวิตามิน B1, B2, B6, B12, nicotinic acid และ folic acid นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในระบบย่อยอาหาร

6.  ช่วยลดปริมาณสารพิษและเอนไซม์ที่เป็นพิษที่เกิดจากกระบวน การเมตาบอลิซึมของ
แบคทีเรียไม่ดี

7.  ช่วยลดการทำงานของตับ การลดปริมาณของสารพิษ เป็นผลทำให้ปริมาณสารพิษที่เข้าสู่ตับลดลงด้วย


มังคุด



ประโยชน์ของมังคุด

มังคุดเป็นผลไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ชอบอากาศชื้นที่สำคัญควรเลือกพื้นที่ปลูกที่มีน้ำเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง มังคุด เป็นผลไม้ที่มีระบบรากหาอาหาร ค่อนข้างลึกประมาณ 90 - 120 ซม. จากผิวดิน ดังนั้น จึงต้องการสภาพแห้งก่อนออกดอกค่อนข้างนาน โดยต้นมังคุดที่สมบูรณ์ ใบยอดมีอายุระหว่าง 9 - 12 สัปดาห์ เมื่อผ่านช่วงแล้งติดต่อกัน 21 - 30 วัน และมีการกระตุ้นน้ำถูกวิธี มังคุดจะออกดอก
 ประโยชน์ต่อสุขภาพ
     สารสกัดมังคุด มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุอาการท้องเสีย สารที่พบมากที่เปลือกคือ tannin มีฤทธิ์ฝาดสมาน จึงช่วยแก้อาการท้องเสีย นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุการเกิดหนองและยังรักษาแผลได้อีกด้วย
การใช้มังคุดรักษาอาการท้องเสีย
    1. ใช้เปลือกผลตากแห้ง ต้มกับน้ำปูนใส นำน้ำมาดื่ม
    2. ใช้ผลตากแห้งฝนกับน้ำดื่ม
    3. ใช้เปลือกตากแห้งมาฝนกับน้ำดื่ม ให้เด็กดื่มครั้งละ 1 - 2 ช้อนชา ทุก 4 ชม.และผู้ใหญ่ ครั้งละ 4 ช้อนชา ทุก 4 ชมฬ

กีวี

ประโยชน์ของผลไม้ชนิดนี้มาฝากกัน 
       
       1. กีวี เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีมากกว่าส้มถึงสองเท่า เพียงรับประทานแค่หนึ่งผล จะให้วิตามินซีเพียงพอตามที่ร่างกายคนเราต้องการในแต่ละวันเลยนะ
       
       2. มีปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีค่าชีวะปริมาณออกฤทธิ์ (Bioavailable antioxidants) เช่น วิตามินซี วิตามินอี โพลีไฟนอล แคโรทีนอยด์ในระดับสูง ซึ่งจะช่วยลดอนุมูลอิสระที่สร้างความเสียหายต่อเซลล์และนำไปสู่​​ปัญหาสุขภาพ เช่น โรคมะเร็ง โรคข้อเสื่อม โรคหอบหืด โรคหัวใจหลอดเลือด โรคเบาหวานและต้อกระจก
       
       3. ช่วยย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีเอนไซม์แอกทินิดินซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยย่อยโปรตีนได้ดีขึ้น
       
       4. มีไฟเบอร์ตามธรรมชาติ ช่วยสร้างสุขภาพที่ดีในระบบการย่อยอาหาร รวมไปถึงการขับถ่าย
       
       5. เป็นแหล่งของโพแทสเซียมธรรมชาติที่มีความจำเป็นต่อเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย กีวี 2 ผลให้ปริมาณโพแทสเซียมร้อยละ 10 ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับกล้วย แต่มีปริมาณแคลอรีที่น้อยกว่า
       
       6. อุดมไปด้วยโฟเลต ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะช่วยพัฒนาสารพันธุกรรมของทารกในครรภ์ ป้องกันความบกพร่องทางสมองของเด็กทารก รวมถึงเสริมสร้างสมองให้แข็งแรง พร้อมช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางสมองที่ดีอีกด้วย
       
       7. แหล่งรวมวิตามินอีไขมันต่ำตามธรรมชาติ ซึ่งทราบกันดีว่าช่วยในการทำงานของหัวใจ ลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยในการไหลเวียนโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ และลดการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจที่ไปเลี้ยงสมอง
       
       8. มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ซึ่งไม่ส่งผลให้เกิดสภาวะน้ำตาลในเลือดสูงแบบฉับพลัน เหมาะสำหรับผู้เป็นเบาหวานเพราะจะช่วยพัฒนาสารพันธุกรรมของทารกในครรภ์
       
       9. มีแคลอรีต่ำ แต่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นตัวเลือกที่ดียิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แถมยังมีรสชาติอร่อย รับประทานง่ายอีกด้วย
       
       10. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ต่อต้านอาการภูมิแพ้ต่างๆ รวมทั้งหอบหืด ช่วยลดอาการอักเสบจากการติดเชื้อ ช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจน ทำให้หลอดเลือด เหงือก กระดูกและฟันแข็งแรง

       
       ข้อมูลจาก: Zespri Journal 2013 เซสปรี®กีวี ผลไม้กีวีคุณภาพเยี่ยมจากนิวซีแลนด์



Fruitogreen Kiwi สารสกัดจากผลกีวี

ส้ม


ประโยชน์ของส้ม

1. ส้มเป็นผลไม้นางเอก มีสารไฟโตนิวเทรียนต์มาก ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงสารกลุ่มฟลาวาโนนส์ สารแอนโธไชยานินส์ สารโพลีฟีนอลส์ และวิตามินซี ที่ช่วยทำให้ผิวสวยกระจ่างใส .. ส้ม มีคอลลาเจน ช่วยซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกาย ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น ไม่แห้งแตก และช่วยสมานแผลหลังผ่าตัด แผลไฟไหม้ ให้หายเร็ว และแผลเรียบเนียนขึ้น

2. ส้ม ให้แคลเซียมและวิตามินดี แก่ร่างกาย มากพอๆ กับนม และแคลเซียมจะไปเสริมสร้างกระดูก แต่ถ้าไม่มีวิตามินดี ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมจากอาหารได้ นอกจากนี้ส้มยังมีวิตามินซี ซึ่งจะช่วยเพิ่มกระบวนการดังกล่าวอีกด้วย แต่พึงเข้าใจด้วยว่า กรดอะซีติกในส้ม อาจทำลายสารเคลือบฟันได้ จึงไม่ควรแปรงฟันภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากทานส้มหรือดื่มน้ำส้ม

3. ส้ม มีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยป้องกันการอักเสบ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน ยิ่งไปกว่านั้นส้มยังช่วยป้องกันและรักษาเลือดออกตามไรฟัน และมีคุณสมบัติช่วยล้างพิษในร่างกาย

4. เปลือกของส้ม มีสารมหัศจรรย์อยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นคือการ Polymethoxylated Flavones (PMFs) และสาร D-Limonene ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอล ปรับระดับน้ำตาลในเลือด และกระตุ้นการกรองสารพิษของตับ นอกจากนี้จากการศึกษายังชี้ว่า เม็ดสีในส้มเขียวหวานจะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) โดยไม่ส่งผลต่อคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)

5. ตำรับจีนมักเสิร์ฟเปลือกส้ม คู่กับอาหารเนื้อสัตว์ เพื่อย่อยอาหารที่มีไขมันสูง บางตำราแนะนำให้เริ่มวันใหม่ด้วยน้ำเลมอน 12 ออนซ์ ผสมกับน้ำกรองแล้วที่อุณหภูมิห้อง จะช่วยชะล้างของเสียในระบบย่อยอาหารและลำไส้ได้ เพราะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ

6. ส้ม อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยปกป้องแก้วตาจากโรคต้อกระจก และจากการศึกษายังพบว่า การบริโภควิตามินอีและซีในปริมาณมาก จะช่วยป้องกันโรคต้อกระจกได้ แม้แต่ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้สูง

7. ส้ม จะทานก็ได้ จะดมผิวก็ได้ เพราะส้มมีสารโฟเลตซึ่งช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนซีโรโทนิน อันเป็นสารแห่งความสุข กลิ่นของผลไม้ตระกูลส้มสามารถทำให้เบิกบานได้

ข้อมูลเพิ่มเติม

สำหรับพ่อแม่ที่อยากให้ลูกน้อยดื่มน้ำส้มคั้น จะให้ดื่มได้ ต้องหลัง 6 เดือน เพราะเป็นช่วงที่สามารถให้อาหารเสริมได้ แต่ควรผสมน้ำส้มในน้ำ ในปริมาณครึ่งต่อครึ่ง การให้น้ำส้มที่มีรสชาติเข้มข้นโดยไม่ผสมอะไรเลยอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบดูดซึมของลูกได้ พอลูกโตขึ้นจึงค่อยๆ ลดปริมาณน้ำลง จนถึงอายุ 5 ขวบจึงสามารถให้น้ำส้มอย่างเดียวโดยไม่ต้องผสมน้ำ อนึ่ง เนื่องจากน้ำส้มมีรสหวานมาก การผสมน้ำ ยังเป็นข้อดีที่ช่วยให้ลูกน้อยไม่ติดหวานตั้งแต่เล็ก

ผู้ที่เป็นโรคไตและเบาหวาน หากต้องการจะทานส้ม ควรทานด้วยความระมัดระวัง เพราะส้มเป็นผลไม้ที่ให้โปแตสเซียมและน้ำตาลสูง ควรทานเป็นผลซึ่งมีกากใย จะดีกว่าดื่มน้ำส้มคั้น เพราะน้ำส้มคั้น 1 แก้วต้องใช้ส้มมาคั้นหลายผล ไม่มีกากใย และบางเจ้าจะเติมรสหวานเพิ่มเติม

ที่มา : http://www.bloggang.com โดยคุณ พรไม้หอม

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

องุ่น

องุ่น 
เป็นพืชยืนต้น มีลักษณะเป็นไม้พุ่มเลื้อย มีลักษณะเนื้อแข็งและมีลำต้น กิ่งถาวรอายุเกิน 1 ฤดู ถ้าปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติจะเลื้อยเกาะกิ่งไม้ ใบกลมขอบหยักเว้าลึก 5 พู โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ดอกออกเป็นช่อแยกแขนง ดอกย่อยขนาดเล็กสีเขียวมีหมวก จะหลุดออกเมื่อดอกบานกลีบดอกเมื่อบานสีขาว โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยก 5 กลีบ เป็นผลเดี่ยวที่ออกเป็นพวง (เป็นผลเดี่ยวที่เกิดจากดอกช่อแต่ดอกไม่หลอมรวมกัน) ผลย่อยรูปกลมรีและฉ่ำน้ำ มีผิวนวลเกาะและรสหวาน มีสีเขียว, ม่วงแดงและม่วงดำแล้วแต่พันธุ์ ในผลมีเมล็ดประมาณ 1 - 4 เมล็ด
สรรพคุณทางอาหราและยา
องุ่นมีสารอาหารที่สำคัญคือน้ำตาลและสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์ เช่น น้ำตาลกลูโคส, น้ำตาลซูโคส, วิตามินซี, เหล็กและแคลเซียม องุ่นยังสามารถนำไปทำเป็นเหล้าองุ่นซึ่งเป็นเหล้าบำรุงใช้เป็นยา การรับประทานองุ่นเป็นประจำมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง, บำรุงหัวใจ, แก้กระหาย, ขับปัสสาวะและบำรุงกำลัง คนที่ร่างกายผอมแห้ง แก่ก่อนวัยและไม่มีเรี่ยวแรง หากรับประทานองุ่นเป็นประจำจะสามารถช่วยเสริมทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้ ส่วนเครือและรากมีฤทธิ์ในการขับลม, ขับปัสสาวะ, รักษาโรค

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ  นางสาวเกศินี   สุขกรี

ชั้น ม4/1 เลขที่ 30

โรงเรียน ตราดสรรเสริญวิทยาคม

เกิดวันที่ 19 ธันวาคม

กรุ๊ป B